ขโมยเบนซ์ ขับไปโชว์สาว โจรย่องงัดบ้านย่านท่าทราย นนทบุรี บัตรเครดิต รถเบนซ์ หาย คนร้ายสิ้นท่า ตำรวจเข้ารวบตัวขณะกำลังขับรถไปหาเพื่อน ข่าวหัวขโมยก่อเหตุย่องงัดเข้าบ้านผู้เสียหาย ก่อนลัก “รถยนต์เบนซ์ C200 CGI BE สีดำ” ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ภายในซอยสามัคคี 58/15 ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี ต่อมาทราบชื่อผู้เสียหาย นายธีรบูลย์ อายุ 53 ปี เล่าว่า หลังจากตื่นนอนขึ้นมาเพื่อจะไปทำงานก็พบว่ารถเบนซ์ที่จอดอยู่ของตัวเองนั้นหายไป ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดจึงทราบว่า มีคนร้ายเป็นชาย รูปร่างสูงใหญ่ เข้ามาลักขับหลบหนีไป ช่วงเวลา 01.45 น.
ทั้งนี้ ภายหลังการเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ตำรวจชุดสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ก็สามารถจับกุม นายสุรชัย สุ่มมาตย์ อายุ 22 ปี ทำงานก่อสร้างย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้ก่อเหตุงัดบ้านเข้าไปขโมยทรัพย์สินของนายธีรบูลย์ ได้เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยนอกจากรถยนเบนซ์แล้ว ทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปยังประกอบด้วย เงินเหรียญจำนวนหนึ่ง , บัตรเครดิต 1 ใบ คนร้ายให้การว่า หลังจากเห็นกุญแจรถเบนซ์วางอยู่จึงลองนำไปสตาร์ท ปรากฏว่าสามารถใช้งานได้จึงใช้ขับหนีไป
สำหรับสาเหตุที่ตอนแรกเจ้าหน้าที่เแสดงตัวเข้าจับกุมแล้วเลขทะเบียนรถไม่ตรงกับแผ่นป้ายทะเบียน เป็นเพราะระหว่างทาง ผู้ก่อเหตุได้สับเปลี่ยนทะเบียนรถกับ รถเก๋ง BMW X3 เป็นป้ายประมูล จอดอยู่ริมถนนชัยพฤกษ์ ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จากนั้นขับตระเวนขับรถยนต์ไปอวดสาว กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในที่สุดขณะกำลังขับรถที่ลักมาไปหาเพื่อน
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ นายสุรชัย โจรก่อเหตุขโมยรถเบนซ์ เจ้าตัวเคยถูกดำเนินคดีลักทรัพย์ เมื่อ มี.ค.65 ของ สน.หัวหมาก ก่อนได้รับการป่อยตัวออกมา เมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา
ข่าววัยรุ่นตีกันในโรงพยาบาล กลุ่มวัยรุ่นกว่า 20 คน ยกพวกบุกถึงหน้าโรงพยาบาล หวังตามซ้ำคู่อริถึงหน้าห้องฉุกเฉิน เคราะห์ดีพยาบาลฉวสยโอกาสล็อกปรธตูได้ทัน ก่อนเกิดเร่องวุ่น ข่าววัยรุ่นตีกันในโรงพยาบาล – อุทาหรณ์แก๊งวัยรุ่นก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงกัน เกิดขึ้่นเมื่อวันที่ 26 มิถนายนที่ผ่านมา โดย ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรแหลมงอบ ได้รับแจ้งเกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นยกพวกจะบุกทำร้ายคนเจ็บในห้องฉุกเฉินของ รพ.แหลมงอบ จ.ตราด
ที่เกิดเหตุภายในห้องฉุกเฉิน ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ นายแสงตะวัน เปิดเผยว่า คู่กรณีที่ใช้อาวุธมีดแทงตนนั้นทราบชื่อ คือ นายฮาฟิส อายุ 23 ปี โดยตอนที่ตนเองกำลังยืนอยู่หน้าเวทีนายฮาฟิสได้ใช้มีดสั้นแทง ตนเองสู้ไม่ได้จึงถูกแทงได้รับบาดเจ็บ ทั้งต้นแขนและมือของตนถูกเย็บแผลไป 12 เข็ม ส่วนสาเหตุเกิดจากหลายสัปดาห์ก่อนนายฮาฟิส กล่าวหาว่าตนไปมองหน้าและมีเรื่องชกต่อยกัน คาดว่านายฮาฟิส น่าจะแค้นจึงลงมือทำร้ายตนกลางงานประจำปี
ขณะที่หนึ่งในเพื่อนผู้บาดเจ็บ อายุ 19 ปี เล่าเหตุการณ์วันที่เพื่อนถูกอาวุธมีดแทงได้รับบาดเจ็บว่า ช่วงที่มาส่งนายแสงตะวันหาหมอ กลุ่มวัยรุ่นคู่อริได้ขี่รถตามมาที่โรงพยาบาลกว่า 20 คน มีทั้งมีดสั้น มีดยาว และพยายามจะบุกเข้าไปในห้องฉุกเฉิน แต่โชคดีที่พยาบาลวิ่งมาล็อกประตูได้ทัน
ส่วนพวกตนที่รอเพื่อนรักษาตัวอยู่ต้องหลบเข้ามุม เพราะเกรงว่าจะโดนรุมทำร้ายได้ จากนั้นพยาบาลจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่กลุ่มคู่อริจะแยกย้ายกันกลับไป เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกตัวผู้ได้รับบาดเจ็บและเพื่อนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนจะเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตำรวจ สวน ‘อัจฉริยะ’ ข่าวจับบ่อนใต้ดินรัชดาฯ เป็นการข่าวภายใน
รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ออกมาเผยหลัง อัจฉริยะ อ้างเป็นคนให้เบาะแสจับบ่อนรัชดา ยืนยัน การจับกุมครั้งนี้มาจากข้อมูลภายในของตำรวจ จากกรณีข่าวดัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 เข้าทลายบ่อนพนันย่านรัชดาภิเษก พร้อมกับจับนักพนัน 52 ราย ยึดเงินสดได้กว่า 4 ล้าน 3 แสนบาท โดย พล.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว ผบก.กองบังคับการและสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 และ พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.สายตรวจ นำกำลังพลจับกุมได้ที่ชั้นใต้ดินตึก A Tower หรืออโยธยาทาวเวอร์ ซ.รัชดาภิเษก 18 แขวงและเขตห้วยขวาง พื้นที่ สน.สุทธิสาร โดยในรายงานข่าวยังรบะด้วยว่า สถานที่แอบลักลอบเปิดให้เล่นการพนันดังกล่าวตั้งอยู่ ห่างจาก โรงพักไม่เกิน 900 เมตร หรือ 1 นาที
ต่อมา นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ไลฟ์สด อ้างเป็นคนแจ้งเบาาะแสและให้ข้อมูลกับตำรวจ เพื่อเข้าจับกุมบ่อนดังกล่าว โดยนายอัจฉริยะยังกล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มีนายตำรวจพยายามจ่ายเงินให้กับสื่อมวลชนเพื่อไม่ให้มีการนำเสนอข่าวการจับกุมที่เกิดขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับประเด็นเบาะแสที่นายอัจฉริยะอ้างเป็นคนให้ข้อมูลกับตำรวจนั้น ล่าสุด ดูจะสวนทางกับการให้สัมภาษณ์ของ พลตำรวจตรีจิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งยืนยันวันนี้ (27 มิ.ย.65) ว่า สำหรับการจับกุมบ่อนการพนันบาคาร่า ย่านสุทธิสาร ช่วงกลางดึกวันที่ 24 ต่อเนื่องวันที่ 25 มิถุนายนที่ผ่านมา เป็นการปฏิบัติการภายในหน่วยงานเดียวกัน ระหว่าง ตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ หรือ 191 ร่วมกับ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2
อย่างไรก็ตามเพื่อความโปร่งใส ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จึงออกคำสั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นว่า ตำรวจท้องที่มีส่วนละเลย หรือมีส่วนรู้เห็นด้วยหรือไม่ โดยยังไม่มีคำสั่งช่วยราชการแต่อย่างใด
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป